ชนิดของสายพาน แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ด้วยกันคือ
1. สายพานแบน (Flat Belts)
2. สายพานวี (V – Belts)
3. สายพานกลม (Ropes Belts)
4. สายพานไทมิ่ง (Timing Belts)
สายพานแบน
สำหรับระบบลำเลียง (Flat Belt) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับขนถ่ายลำเลียงวัตถุโดยอาศัยการส่งถ่ายกำลังจากพูเลย์ของเพลาขับช่วยให้สายพานเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน มีลักษณะเป็นสายเรียบแบนที่มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผลิตจากวัสดุหลายชนิดทั้งผ้าใบ พีวีซียาง พลาสติก และเหล็กกล้าไร้สนิมที่ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดถอดออกได้ง่าย ยึดเกาะดี มีคุณสมบัติทนต่อแรงดึง ทนความร้อน ทนน้ำมัน สารเคมี ป้องกันไฟฟ้าสถิตได้ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้นสายพานแบนจึงนิยมนำมาติดตั้งใช้งานกันอย่างแพร่หลายในสายพานลำเลียงเครื่องจักรการพิมพ์, บรรจุภัณฑ์หีบห่อ, กระเป๋า, อุตสาหกรรมอาหาร, เครื่องดื่ม, กระสอบข้าว, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ปั้มน้ำ, พัดลม และอีกมากมาย
สายพานไทม์มิ่ง หรือ สายพานราวลิ้น
มีหน้าที่ในการถ่ายทอดกำลัง จากเพลาข้อเหวี่ยงไปยังเพลาราวลิ้น จากนั้นเพลาราวลิ้นจึงถ่ายทอดกำลังไปยังกระเดื่องวาล์วอีกที เพื่อทำหน้าที่ในการเปิดกับปิดวาล์วของไอดี และไอเสียนั่นเอง แต่ถ้ามันเกิดขาดขึ้นมาแบบกะทันหัน อาจทำให้ก้านสูบ หรือลูกสูบแตก และวาล์วคดงอ
สายพานกลม (Ropes Belts)
ที่มีหน้าตัดเป็นรูปวงกลม สายพานกลมทำจากพลาสติกโพลียูริเทน จะต้านทานจาระบี น้ำมันเบนซิน น้ำมัน และน้ำ สายพานกลมสามารถปรับตั้งทิศทางการหมุนได้หลายทิศทางตามความต้องการของผู้ใช้และ การส่งกำลังด้วยสายพานกลมจะให้ความยืดหยุ่นสูงมาก ขณะการทำงานของสายพานจะไม่เกิดเสียงดัง
สายพานร่องวี หรือ V-belt
เป็นสายพานที่ทำหน้าที่ส่งกำลังจากมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ ไปยังเครื่องจักร ซึ่งสายพานจะดึงมู่เลย์ (Pulleys) ให้หมุนด้วยแรงเสียดทาน และส่งกำลังจากเพลาขับ (Driving shafts) ไปยังเพลาตาม (Driven Shaft) เป็นสายพานที่นิยมใช้ในเครื่องจักรกลในโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุด